Puinoon Trip Blogger

สวัสดีครับทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของผม ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนเลยนะครับว่า จุดประสงค์ที่จัดทำ Blog นี้ขึ้นมานี้ก็เพื่อที่จะจัดเก็บและรวบรวมสิ่งต่างๆ ที่ตัวผมเองนั้นชื่นชอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยว การถ่ายรูป การแต่งภาพ การเล่นกีต้าร์ การทำอาหาร และสิ่งต่างๆอีกมากมาย หวังว่าจะเป็นประโยชน์ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจและชื่นชอบในสิ่งเดียวกับที่ผมชอบ ไม่มากก็น้อย ผมหวังว่า Blog นี้ จำทำให้หลายๆคน ได้รับสิ่งที่เป็นประโยชน์และความรู้ไม่มากก็น้อย ผมจะพยายามหาสิ่งที่มีประโยชน์และความรู้มาให้ชมกันอีกนะครับ ขอบคุณมากครับ ..... >>>ปุยนุ่น<<<


วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วังเวียง สปป.ลาว

วังเวียง สปป.ลาว วิถีเรียบง่ายมีเสน่ห์ในตัวเองกับธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์

        ได้เคยเห็นหลายๆคนไปเที่ยวและหลายๆคนกลับมาคุยให้ฟัง ก็ไม่ได้ติดใจอะไรครับ จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งก่อนวันเดินทางไม่ถึงเดือนพี่ๆชวนไป ด้วยเป็นวันหยุดติดต่อ 3 วัน 2 คืน โดยไม่ต้องลางาน ก็เลยตงลงว่าจะไปครับ  ผมไม่ได้เป็นผู้จัดการจองรถหรือที่พักอะไรทั้งสิ้นคราวนี้ขอไปแบบผู้ติดตามอย่างเดียวครับ แค่จัดกระเป๋าและเตรียมกล้องไปก็เท่านั้น เริ่มออกเดินทางที่บริษัทนครชัยแอร์ เวลา 22.15 น. โดยประมาณ แต่รู้สึกต้องไปรับตั๋วก่อนครึ่งชม. ด้วยความตื่นเต้นก็ไปถึงตั้งแต่ 20:00 น.รอเวลาตั้ง 2 ชม.จะทำอะไร ? คิดในใจ 




    ไม่รู้ชื่อร้านอะไรอยู่ซอยตรงข้ามนครชัยแอร์ (ซอยข้างๆศูนย์อาหารครับ) แถวนั้นหาร้านแบบนี้ยากพอสมควร แล้วนี่อาจจะเป็นร้านเดียว เวลา 2 ชั่วโมง ก็ได้ลาบ1จานแล้วก็เครื่องดื่มจำนวนหนึ่ง พอหลับสบาย 5 กระป๋อง พอดีไม่ขาดไม่เกิน จากนั้นก็ขึ้นรถไปได้สักพักก็หลับสบายจริงๆครับ กำหนดการจะถึงหนองคายประมาณ 07:30 น. แต่วันนั้นรถติดมากๆครับ เพราะเป็นวันหยุดยาวผู้คนน่าจะกลับบ้านไปทำบุญออกพรรษาบวกกับทางแถวโรงปูนก่อนถึงลำตะคองกำลังสร้าง ทำให้ถึงหนองคาย 12:00น. พอดีเลยครับ ช้าไป 4 ชั่วโมงกว่าๆเอง รถจอดที่ด่านครับ จากนั้นรอรถตู้มารับเข้าฝั่งลาวก็มีเรื่องหนังสือเดินทางแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้เวลาประมาณครึ่งชม.ได้ครับ 


แวะมื้อเที่ยงที่เวียงจันทร์ ร้านนี้ครับ PHO ZAP ไม่รู้ว่าร้านดังหรือไม่ดัง พี่เค้าพามาก็ลองๆไป มื้อเที่ยงเวลาประมาณ 13:30 น.
ถ้วยจัมโบ้ วัว
ชามจัมโบ้ ใหญ่มากๆ ถ้าคิดเป็นเงินไทยประมาณ 150 บาทครับ เนื้อเยอะมากๆ เส้นเยอะจนกินไม่หมดครับ ความหิวทำให้ผมสั่ง 55+ เสิร์ฟพร้อม ผัก เช่นถั่วฝักยาว พริกสด โหระพา มะนาว และกระปิ แต่ไม่รู้กินยังไงครับ ผมปรุงแบบก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา

ราคาประมาณนี้ครับ บวก ลบ คูณ หาร กันเองครับ

จากนั้นเริ่มเดินทางจากเวียงจันทร์มุ่งหน้าสู่วังเวียงเลยครับ แวะเปลี่ยน ซิม โทรศัพท์ ที่ร้านโทรศัพท์แห่งหนึ่ง เจ้าของร้านบอกว่า ซิม มี 2 แบบ ครับ แบบใช้โทรกับแบบใช้ Internet แบบใช้ Internet จะคุ้มกว่า  เปลี่ยนเสร็จก็เริ่มเดินทางต่อ (ในรถตู้มี WIFI) ได้ครึ่งทางเราแวะซื้อกาแฟและก็อาหารเสริม (เบียร์ลาว) 1 ลัง + ค่ามัดจำลัง 130,000 กีบ พอดี ครับ สภาพทางรถขับได้ไม่เร็ว ประมาณ 50-60 กม./ชม. เพราะเริ่มมืดแล้วด้วย ถึงที่ตัวเมืองวังเวียงประมาณ 20:00 น. โดยประมาณ ที่พักเราอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำซองครับ  เราจึงแวะรับประทานอาหารเย็นกันก่อน (เป็นร้านของที่พักครับ) เข้าไปในร้านส่วนมากมีแต่เกาหลี ฝรั่ง และพี่ไทยนี่แหละ 

 บรรยากาศภายในร้าน

 อาหารเย็นแบบไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศ

 ความอร่อยพอประมาณครับ สู้บ้านเราไม่ได้

แต่ว่าอาหารเครื่องดื่ม ราคาแพงกว่าบ้านเราประมาณ 2-3 เท่าครับ


 อิ่มแล้วก็เข้าที่พักครับเพราะมืดแล้วและเหนื่อยมากด้วย เป็น เวลา 24 ชม. พอดี จาก กทม. สู่วังเวียง เราไม่สามารถนำรถข้ามแม่น้ำได้เพราะน้ำขึ้นสูง จึงต้องนั่งเรือข้ามไปที่พัก เรือลำเล็กนั่งได้ทีละ 3 คน ก็ประมาณ 4 เที่ยวครับ พอไปถึงที่พัก ไม่อยากจะเชื่อเลยครับ คิดในใจนะ ไม่มีที่ดีกว่านี้แล้วหรือดูแล้วลำบาก และที่พักไม่ติดกันเลยสักหลัง ดูน่ากลัว และ วังเวง มาก พวกเราเหมือนจะทนกันไม่ได้ มาเจรจากับเจ้าของจนสำเร็จ เปลี่ยนให้มาอยู่หลังหน้าที่มีแอร์ (บางหลัง) และอยู่ติดกัน  โล่งอกโล่งใจ ถึงจะไม่ดีที่สุดแต่พอรับได้ครับ ความเหนื่อยกับความมืดที่มองไม่เห็นอะไร ทำให้รู้สึกแย่ครับ แต่ตอนตื่นเช้าขึ้นมาเท่านั้นแหละครับ ความเหนื่อยและความรู้สึกว่าจะมาทำไม หายไปหมดเลยครับ มีแต่ความตื่นเต้น สวยงาม ธรรมชาติ วิถีชาวบ้าน แม่น้ำที่ลงไปเดินข้ามได้ หินกลมๆ ถอดรองเท้าเดิน ดินเหนียวที่สามารถเดินแล้วรู้สึกสบายเท้ามาก กับ กล้องหนึ่งตัว มี บอลลูน (อธิบายไม่หมดครับต้องลองไปเอง) ตัวผมเองรู้สึกว่าเวลาแค่นี้มันน้อยเกินไป อยากกลับมาอีกแบบ 5 วัน 4 คืน ครับ 

เดินเล่นริมแม่น้ำยามเช้า

น่าสนุกนะ แต่บังเอิญผมเป็นโรคกลัวความสูงมาก

วิวบนสะพาน (มุมมหาชน)

ที่พักที่มีชื่อเสียงแต่ส่วนมากเต็ม สวยจริงๆ

ธรรมชาติยังสวยงามอยู่ถึงแม้ความเจริญจะเข้ามามาก

ด้านหน้ารีสอร์ทที่ผมพักและแม่น้ำซอง

บริเวณที่พัก 

ความสวยงามยังงดงาม

     ที่พักแห่งนี้ชื่อว่า  Othersite ครับ (ที่จริงแล้วผมไม่รู้หรอกครับว่าชื่ออะไร ผมลงภาพใน FB แล้วมีน้องมาถาม ผมก็เลยถามพี่ที่จอง)  เป็นที่พักจริงๆครับ เพราะมาถึงก็ดึกและตื่นเช้าออกไปเดินสำรวจและก็เก็บข้าวของเพื่อไปเที่ยวต่อตามสถานที่ต่างๆ ครับ